My Phuoc Apartment
Bui Huu Nghia St., Binh Thanh district
Ho Chi Minh City, Vietnam
"อพาร์ตเม้นของผมเอง"
เริ่มกลับมาปัดฝุ่นบอกเล่าเรื่องราวอีกครั้ง หลังจากที่ได้เห็นเพื่อนเริ่มเขียนบล็อกขึ้นมา ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่า ผมเองก็มีบล็อกเหมือนกัน แต่ไม่ได้ทำอะไรกับมันสักที ในตอนแรกที่ทำบล็อก ตั้งใจว่าตอนมาอยู่เวียดนามก็จะเขียนเรื่องราวบอกเล่าบันทึกความทรงจำกับประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้โอกาสมาอยู่อาศัยในต่างแดน วันนี้จึงตั้งใจว่าจะปัดฝุ่นและทำมันให้เสร็จสักที !
ไซง่อนเมืองแห่งการดื่ม
ถ้าบอกว่าเยอรมันเป็นเมืองเบียร์ ผมก็ขอยกให้ไซง่อน เวียดนามเป็นเมืองเบียร์ของชาติตะวันออกเลยทีเดียวด้วยความที่ไซง่อนมีร้านค้า ร้านอาหารริมสองข้างทางเยอะมาก ตั้งแต่ร้านริมฟุตบาทข้างทาง นั่งยองๆ ดมควันรถ หรือระดับร้านอาหารภัตราคารหรูย่านธุรกิจต่างๆ ผู้คนที่นี้นิยมดื่มเบียร์เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าจะเห็นดื่มกันตั้งแต่เช้าจนถึงยามราตรี ร้านค้าจะมีคนเข้าออกตลอดเวลา ส่วนเบียร์ที่นิยมที่สุดก็คงจะเป็น Saigon Beer ซึ่งเป็นเบียร์ท้องถิ่นและมีรสชาดที่ดีที่เดียว แม้จะมีเบียร์หลากหลายยี่ห้อที่เข้ามาเล่นในตลาดเวียดนาม (แต่ผมยังไม่เห็นค่ายสิงห์ หรือช้างเข้ามาในตลาดนี้เลย ไม่ทราบว่าเพราะอะไรเหมือนกัน) ทุกยี่ห้อต่างก็มีแค่แบบกระป๋องและขวดแก้วขนาดเล็ก ไม่มีขวดใหญ่
คนเวียดนามค่อนข้างชาตินิยม ซึ่งส่วนหนึ่งก็คงมาจากการที่เวียดนามมีประวัติศาสตร์ที่ค่อนข้างเจ็บปวดเกี่ยวกับสงครามที่รบราฆ่าฟันกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นที่จับตามองจากทั่วโลกในขณะนั้น จนหลายฝ่ายต้องออกมาเรียกร้องอเมริกาพี่ใหญ่ในขณะนั้นให้หยุดทำสงครามเสียที
"Imagine there's no heaven It's easy if you try
No hell below us Above us only sky
Imagine all the people Living for today
Imagine there's no countries It isn't hard to do
Nothing to kill or die for And no religion too
Imagine all the people Living life in peace"
ถ้ายังพอจำกันได้นักร้องจากฝากฝั่งอังกฤษ John Lenon จากวง The Beatle ก็ได้แต่งเพลง Imagine เพื่อเรียกร้องสันติภาพและการยุติสงครามในขณะนั้น จากฝั่งไทยก็จะเป็นกลุ่มนิสิตนักศึกษา นักคิดนักเขียนต่างๆที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเรียกร้องสันติภาพ ที่เราพอจะรู้จักก็คงเป็นจะกลุ่มของน้าหงาคาราวาน กับบทเพลงเพื่อชีวิต
ซึ่งจากเหตุการณ์ความเลวร้ายของสงครามอันยาวนานที่ผ่านมาทำให้ทุกคนที่นี้รักชาติ และเรียนรู้ถึงความผิดพลาดที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี ซึ่งเวียดนามในวันนี้ เป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าจับมองเลยทีเดียว
"ภาพรถถังบุกเข้ารัฐสภาที่ทำการของเวียดนามใต้ในขณะนั้น
และภาพการประกาศอิสรภาพรวมถึงการรวมประเทศ"
พอผมได้รับทราบประวัติของชนชาติเวียดนามเบื้องต้นแล้ว ก็กลับมาย้อนถึงนึกชนชาติหนึ่งที่มีทรัพยากรณ์ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ผู้คนอยู่กันสุขสบาย อีกทั้งยังไม่เคยผ่านเหตุการณ์ความโหดร้ายของสงครามเหมือนอย่างเวียดนามมาก่อน แต่ผมกลับรู้สึกว่าคนในชาติไร้ความสามัคคี ไม่รักกัน แบ่งพรรค แบ่งฝ่าย แบ่งสี มองแต่ประโยชน์ตนเองก่อนผืนแผ่นดินเกิดที่ตนเองอาศัยอยู่
ก็ได้แต่หวังว่าสักวันคนในประเทศนั้นจะคิดได้ ก่อนที่จะต้องรอให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงหรือเลวร้ายเหมือนอย่างที่คนเวียดนามเคยเจอ ถึงจะค่อยหันหน้ามาสามัคคีกัน รักกัน อีกครั้ง ใครอาจจะคิดว่าผมเพ้อฝัน แต่ผมก็ยังเชื่อตามที่ "John Lenon" ได้กล่าวไว้ในบทเพลงของเขาเอง
"You may say I’m a dreamer
But I'm not the only one
I hope someday you'll join us
And the world will be as one"
"ศึกษาประวัติศาสตร์เขาแล้ว ลองย้อนกลับมาดูตัวเรากันเถอะครับ"
Apt_sekit @ My Phouc Apartment
13-05-2012
No comments:
Post a Comment